วันเดอร์ฟรุ๊ต ประกาศไลน์อัพกลุ่ม 2 นำโดย Lianne La Havas, Shura และ Stephan Bodzin พร้อมด้วยไฮไลท์ศิลปะ อาหาร เหล่านักพูด และอีกหลายหลายโปรแกรมที่ไม่ควรพลาด


 

กรุงเทพฯ, 28 กันยายน 2559 – วันเดอร์ฟรุ๊ต เผยไลน์อัพกลุ่มที่ 2 กับศิลปินเพลงจากทั่วโลก ดีไซน์เวทีใหม่ แคมเปญระดมทุน art car เวิร์คช็อปชวนสนุกหลายรูปแบบ เหล่าเชฟที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยกับโปรแกรม Wonder Feasts และอีกหลากหลายความน่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด 15-18 ธันวาคมนี้ ณ เดอะ ฟิลด์ แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา และจากความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำเฟสติวัลที่ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ บริษัท สแครทช์ เฟิร์สท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงานวันเดอร์ฟรุ๊ต เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้มีส่วนร่วมในการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมในเชิงสร้างสรรค์ จากความตั้งใจที่จะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายบัตรไปสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพริมบารายา (Rimba Raya Biodiversity Reserve)ในอินโดนิเซีย  

 

ไฮไลท์ด้านดนตรีในเฟสนี้ วันเดอร์ฟรุ๊ต ประกาศเพิ่มศิลปินและดีเจอีกหลากหลายแนว เริ่มจากฝั่งอิเล็กทรอนิกส์ นำโดย Stephan Bodzin ดีเจแนวเทคโนชาวเยอรมัน,  YoKoO เจ้าของเพลงสุดฮิต All Day I Dream, Eric Volta, Marc Antonaและดีเจที่คุ้นหน้าคุ้นตาฝั่งบ้านเราอย่าง Noxro และ Coran ด้านฝั่งอินดี้ เหล่าวันเดอเรอร์เตรียมพบกับนักร้องสาวเจ้าของเสียงดึงอารมณ์ที่มาคู่กับเครื่องดนตรีซิงค์ Shura นักร้องสาวสวยจากฝั่งอังกฤษ มากับเพลงฟังสบายๆ Lianne La Havas วงดนตรีแนวอะคูสติก Blitzen Trapper และ ดูโอ้หนุ่มจากนิวยอร์คกับแนวเพลงผสมผสาน Buke and Gase ที่จะมาเสริมทัพไลน์อัพกลุ่มแรก อย่าง Rudimental, Young Fathers, JUNUN featuring Shye Ben Tzur & The Rajasthan Express, Mad Professor, Nastia, Matador, Kate Simko & London Electronic Orchestra และอีกมากมาย

 

ในส่วนของเวที ซึ่งนอกเหนือจากความน่าสนใจของ ฟาร์ม สเตจ (Farm Stage) เวทีที่จะถูกสร้างและตกแต่งด้วยข้าวทั้งหมด อีกหนึ่งไฮไลท์คือ โซลาร์ สเตจ (Solar Stage) ผลงานการสร้างสรรค์ของ Gregg Fleishmanศิลปินนักออกแบบรุ่นเก๋ากับการสร้างสรรค์ผลงานรูปทรงเรขาคณิตที่โด่งดังใน Burning Man จะกลับมายังวันเดอร์ฟรุ๊ตอีกครั้ง พร้อมกับซิกเนเจอร์สุดล้ำของเขา เตรียมตื่นตาตื่นใจกับดีไซน์ล่าสุดของ Solar Stage กับโปรแกรมที่เปิดรับกับช่วงเวลาที่สวยงามน่าจดจำที่สุดยามพระอาทิตย์ขึ้นและตกในวันเดอร์ฟรุ๊ต  และในปีนี้ วันเดอร์ฟรุ๊ตอยากเชิญชวนทุกคนมามีส่วนในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมกัน ผ่านแคมเปญระดมทุน (crowdfunding) สนับสนุนการสร้างวันเดอร์คาร์ (Wonder Kar) เวทีขับเคลื่อนศิลปะและความสนุกไปรอบงาน ซึ่งจะจุคนได้ราว 30 คนต่อหนึ่งรอบ ผลงานสร้างสรรค์ของ Adam Pollina ศิลปินวาดการ์ตูนและดีไซเนอร์ระดับโลก ความพิเศษสำหรับผู้ร่วมสนับสนุนแคมเปญดังกล่าว จะสามารถร่วมสัมผัสความสนุกบนผลงานสร้างสรรค์เคลื่อนที่นี้ได้ในวันเดอร์ฟรุ๊ต ติดตามรายเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ ซึ่งจะประกาศให้ทราบเร็วๆ นี้

 

นอกเหนือจากไลน์อัพด้านดนตรี วันเดอร์ฟรุ๊ต เผยรายชื่อเชฟและร้านอาหารที่จะเสิร์ฟความอร่อยในโปรแกรม Wonder Feasts 2016 อย่าพลาดเมนูบรันช์ จากคู่หูเชฟ Paulo Vitaletti แห่ง PeppinaAppia และเชฟ Jarrett Wrisley แห่ง Soul Food MahanakornAppia และมื้ออาหารจากทีม F.A.C.T. Collective กลุ่มนักสร้างสรรค์ผู้บุกเบิกประสบการณ์ใหม่ ผ่านอาหาร ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ที่จะพาคุณไปลิ้มรสเมนูอาหารไทยผสมผสานจากภาคเหนือและภาคใต้ ซึ่งความพิเศษอยู่ที่การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างแท้จริง ผ่านกรรมวิธีปรุงแบบดั้งเดิม เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มและไวน์ที่หมักโดยฝีมือชาวบ้าน

 

วันเดอร์ฟรุ๊ตยังคงเอาใจสมาชิกวันเดอเรอร์ตัวจิ๋ว กับกิจกรรมมากมายใน แคมป์วันเดอร์ (Camp Wonder) อาทิ การเล่านิทาน โดยทีม Heads & Tales การสอนถ่ายภาพ โดย Anthony Cheung และ การสอนวาดภาพ(live painting) โดย Hannah Theodorou นอกจากนี้ ยังมีโบว์ลิ่งสำหรับเด็ก เวิร์คช็อปงานฝีมือ  อินสตอเลชั่นสำหรับเด็ก การแสดงโขน และที่ขาดไม่ได้ทุกปีกับบริการดูแลเด็กโดยพี่เลี้ยงมืออาชีพ

 

สำหรับ Scratch Talks ในปีนี้ มาในธีม Eco Heroes ที่ได้เหล่านักสร้างสรรค์และผู้นำทางความคิดจากทั่วโลกมาพูดคุยสร้างแรงบันดาลใจ กับหัวข้อที่น่าสนใจมากมายอาทิ เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน โดย Todd Lemons ซีอีโอ จากเอ็นวิชั่น คอร์เปอเรชั่น (Envision Corporation) การปฏิวัติสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin และเทคโนโลยี Blockchain เพื่อกระตุ้นให้เกิดยุคการเงินแบบยั่งยืน โดย Alan Bausch ผู้ก่อตั้ง Natural Capital Alliance  เรื่องราวเกี่ยวกับปลาฉลามและปลากระเบน โดย  Dr. Andy Cornish ความน่าสนใจของภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Plastic Oceans โดยผู้กำกับกับ Craig Leeson และ เรื่องราวน่าสนใจจากแคมเปญเก็บขยะริมชายหาด โดยกลุ่ม Trash Hero

 

ภายในงานยังมีเวิร์คช็อปที่น่าสนใจจากพันธมิตรจำนวนมาก อาทิ F.A.C.T. Collectiveสามพราน ริเวอร์ไซด์, TCDC COMMONS x The Archivist และ Aleph Geddis และที่ไม่ควรพลาด คือ เวิร์คช็อปฝึกมวยไทยขั้นพื้นฐาน กับ บัวขาว บัญชาเมฆ ด้านโปรแกรม Wellness & Adventures พบกับโปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพด้วยศิลปะแห่งจักระโยคะ (Reiki และ Kundalini) กับ Melanie Clapp รวมทั้งการฝึกโยคะขั้นพื้นฐานกับครูสอนจำนวนมาก

 

ผู้ที่ชื่นชอบศิลปะอินสตอลเลชั่น จะได้มีโอกาสชมผลงาน “Little Monsters” โดยศิลปินนักอนุรักษ์และช่างภาพ  ทอม โพธิสิทธิ์ ที่จะร่วมมือกับศิลปินดาวรุ่งอย่าง Jitjer กับการสร้างสรรค์อินสตอลเลชั่นเคลื่อนที่เพื่อสื่อถึงความเปราะบางและการพึ่งพากันและกันของมนุษย์และมหาสมุทร ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากปัญหาการล้มตายของสัตว์ทะเลจำนวนมาก อันเป็นผลกระทบจากขยะที่ถูกทิ้งลงในทะเล โดยศิลปินทั้งสองต้องการสร้างความตระหนักของปัญหานี้ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีด้วยผลงานศิลปะที่สร้างจากเศษขยะที่เก็บมาจากการแคมเปญของกลุ่ม Trash Hero

 

และเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นเฟสติวัลที่สนับสนุนความยั่งยืน วันเดอร์ฟรุ๊ต ได้รับโอกาสในการเปิดฉายภาพยนต์สารคดีเรื่อง Plastic Oceans เป็นที่แรกในโลก ก่อนฉายจริงอย่างเป็นทางการในปี 2017 โดยสารคดีนี้จะนำเสนอผลเสียจากไลฟ์สไตล์ที่มักง่ายของผู้คนในปัจจุบัน และนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาขยะโลก การใช้พลังงานเกินความจำเป็น และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ นอกจากนี้ ยังมีการสร้างสรรค์ของกลุ่มกรีนพีซ ที่จะนำ [RE]Charging Station หรือสเตชั่นชาร์จแบตด้วยพลังงานทดแทนมาตั้งไว้ในงาน โดยหวังว่าจะช่วยจุดประกายให้ผู้ร่วมงานหันมามีไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

 

ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวหรือกิจกรรมในช่วงปลายปี ลองมาสัมผัสประสบการณ์วันเดอร์ฟรุ๊ตไปด้วยกัน  บัตรเข้างานแบบ วัน ราคา 5,500 บาทโดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อบัตร การเดินทาง และการจองที่พัก ได้ที่เว็บไซต์ของวันเดอร์ฟรุ๊ต

 

ผู้ที่สนใจสามารถรับชมวิดีโอเกี่ยวไลน์อัพได้ที่นี่

 

ติดตามการอัพเดทข่าวสารและกิจกรรมของวันเดอร์ฟรุ๊ตผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่

เว็ปไซต์ เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และยูทูป

ความคิดเห็น